โดเมนเนมคือชื่อที่ใช้เพื่อระบุเว็บไซต์ เพื่อความสะดวกในการเข้าถึง แทนการพิมพ์เลข IP Address ของ website hosting นั้นๆ ถ้ายกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าเราจะจดจำใคร เรามักจะจำคนนั้นด้วยชื่อ มากกว่าหมายเลขโทรศัพท์อย่างแน่นอน
เว็บไซต์ในยุคแรกๆ ไม่มี โดเมนเนม
เว็บไซต์เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก ปี 1983 โดยต้องพิมพ์เลข IP 128.174.238.143 แล้วจะพบหน้าเว็บที่ตั้งชื่อว่า info.cern.ch แต่ถ้าพิมพ์ชื่อเว็บ info.cern.ch จะยังเข้าเว็บไม่ได้ เพราะเวลานั้นยังไม่มีระบบโดเมนเนม ฉะนั้น info.cern.ch ในปี 1983 ยังเป็นแค่ชื่อเรียกเท่านั้น
ต่อมาในปี 1986 ได้มีการพัฒนาระบบ DNS ขึ้น เพื่อที่จะใช้การพิมพ์ตัวอักษรที่จดจำได้ง่าย แทนเลข IP Address และเป็นมาตรฐานมาทุกวันนี้
ในบทความนี้จะแบ่งส่วนที่ต้องรู้เกี่ยวกับโดเมนเนมออกเป็น 4 ส่วน
- โครงสร้างของโดเมนเนม
- นามสกุลของโดเมนเนมมีความหมายอย่างไร
- ขั้นตอนการจดโดเมนเนม
- หน่วยงานหลักที่ดูแลโดเมนเนมสากล
1. โครงสร้างของโดเมนเนม
จะยกตัวอย่างเว็บ www.goodwebeasy.com
- com : โดเมนระดับบนสุด (TLD) อยู่ท้ายสุดหรือนามสกุลของเว็บไซต์
- goodwebeasy : โดเมนระดับสอง (SLD) อยู่ส่วนกลางคือชื่อเว็บไซต์นั้นๆ
- www : โดเมนย่อย อยู่ก่อน SLD ตรงนี้ตัวหลักมักเป็น www แต่สามารถเปลี่ยนเป็นคำอื่นได้ ถ้าเป็น Subdomain

2. นามสกุลของโดเมนเนมมีความหมายอย่างไร
โดเมนเนมมีหลายนามสกุลให้เลือกใช้ แต่เราจำเป็นต้องเลือกนามสกุลให้เหมาะสมกับเว็บไซต์นั้นๆ โดเมนเนมแบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ
นามสกุลโดเมนทั่วไป (Generic Top-Level Domains: gTLDs)
- .com: ใช้สำหรับเว็บไซต์ทั่วไป เว็บไซต์เชิงพาณิชย์ต่างๆ
- .net: ใช้สำหรับเครือข่ายและเทคโนโลยี
- .org: ใช้สำหรับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
- .info: ใช้สำหรับเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูล
- .biz: ใช้สำหรับเว็บไซต์ธุรกิจ
นามสกุลโดเมนประเทศ (Country Code Top-Level Domains: ccTLDs)
ที่ลงท้ายด้วยรหัสประเทศ
- .th: ประเทศไทย
- .jp: ญี่ปุ่น
- .uk: สหราชอาณาจักร
- .de: เยอรมนี
- .cn: จีน
นามสกุลโดเมนเฉพาะองค์กร (Sponsored Top-Level Domains: sTLDs)
- .edu: ใช้สำหรับสถานศึกษา
- .gov: ใช้สำหรับหน่วยงานรัฐบาล
- .mil: ใช้สำหรับหน่วยงานทหาร
- .int: ใช้สำหรับองค์กรระหว่างประเทศ

3. ขั้นตอนการจดโดเมนเนม
- เลือกชื่อโดเมนเนม
คิดชื่อโดเมนเนมให้สอดคล้องกับธุรกิจ อาจจะคิดเผื่อไว้สัก 2-3 ชื่อ เผื่อพบว่าชื่อที่ต้องการมีคนอื่นใช้ไปแล้ว - เลือกผู้ให้บริการ
ส่วนใหญ่การจดโดเมนเนมใหม่นักทำควบคู่กับซื้อโฮสติ้ง เราสามารถเลือกจดโดเมนพร้อมกับโฮสติ้งกับผู้ให้บริการโฮสติ้งได้เลย และดูแพ็กเกจต่างๆ เทียบราคาไปพร้อมกัน - ตรวจสอบชื่อที่จะใช้
ผู้ให้บริการโอสติ้งจะมีระบบตรวจสอบโดเมน เพื่อดูว่าชื่อที่เราจะใช้ว่างอยู่หรือไม่ ถ้าชื่อที่เราคิดไว้มีคนอื่นใช้แล้ว ก็เปลี่ยนเป็นชื่ออื่นที่เตรียมมา - สั่งซื้อและชำระเงิน
เมื่อได้ชื่อโดเมนแล้ว ทำการสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์นั้นๆ โดยเลือกว่าจะชำระกี่ปี ต้องการออปชั่นอะไรเพิ่มเติมไหม เมื่อครบถ้วน ก็ชำระเงินตามขั้นตอน - ยืนยันผ่านอีเมลล์
เมื่อชำระเงินแล้ว จะมีอีเมลล์ส่งมาหาเราเพื่อยืนยันการจดโดเมนผ่านลิงค์ และจะอีเมลล์อีกฉบับจากผู้ให้บริการเพื่อบอกรายละเอียดการสั่งซื้อ - ตั้งค่า DNS
กรณีที่เราสั่งซื้อโดเมนพร้อมโฮสติ้ง ผู้ให้บริการจะเซ็ตค่า DNS พร้อมใช้งานมาให้กับเรา ซึ่งสามารถแก้ไขภายหลังได้ แต่ถ้าซื้อโดเมนอย่างเดียว ผู้ให้บริการจะให้รายละเอียดการตั้งค่า เพื่อให้เราสั่งให้โดเมนใช้งานกับฌซอเวอร์ที่เรามี จากนั้นอาจต้องรอ DNS update ไม่เกิน 48 ชั่วโมง - ทดสอบความถูกต้อง
เมื่อตั้งค่าครบแล้ว ทดสอบเปิดเว็บไซต์ตรวจสอบความถูกต้อง

4. หน่วยงานหลักที่ดูแลโดเมนเนมสากล
แม้เราจะสามารถจดโดเมนกับผู้ให้บริการโฮสติ้งหรือผู้รับจดโดเมนรายต่างๆ ได้ แต่จะมีหน่วยงานหลักที่เป็นศูนย์กลางการดูแลและตรวจสอบโดเมนเนมทั่วโลกอยู่ นั่นคือ ICANN (Internet Corporation for Assigned Names and Numbers) ซึ่งทำหน้าที่
- จัดการรายชื่อโดเมนระดับบนสุด (TLD) นามสกุลเว็บไซต์ต่างๆ เช่น .com .net .th ฯลฯ
- ดูแลเซอเวอร์หลักที่บริหารจัดการ DNS
- จัดสรร IP ให้กับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต
- รับรองผู้ให้บริการจดทะเบียนเว็บไซต์ โฮสติ้งและผู้รับจดโดเมนจะทำงานประสานกับ ICANN ในการจดโดเมน
- กำหนดนโยบายการบริหารจัดการเกี่ยวกับโดเมนเนม
Pingback: ค่าใช้จ่ายในการสร้างเว็บไซต์มีอะไรบ้าง Goodwebeasy รับสร้างเว็บไซต์