เว็บโฮสติ้งคือเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ทำหน้าที่เป็นเก็บข้อมูลของเว็บไซต์ ในเซิร์ฟเวอร์นี้จะมีระบบต่างๆ เพื่อให้เว็บไซต์นั้นๆ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีระบบป้องกันการโจมทีทางไซเบอร์
ในบทความนี้จะแบ่งหัวข้อเป็น 4 ส่วน
- หน้าที่ของเว็บโฮสติ้ง
- ประเภทของเว็บโฮสติ้ง
- การเลือกเว็บโฮสติ้ง
- WordPress Hosting
1. หน้าที่ของเว็บโฮสติ้ง
- เก็บข้อมูลเว็บไซต์
เว็บโฮสติ้งจะเก็บข้อมูลของเว็บไซต์ ไม่ใช่แค่ไฟล์โค้ดของเว็บ หรือรูปกับวีดีโอแค่นั้น ยังรวมถึงฐานข้อมูล และการตั้งค่าต่างๆ ที่ทำให้เว็บทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ - แสดงผลเว็บไซต์
เมื่อมีคนพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในเว็บบราวเซอร์ เซิร์ฟเวอร์จะทำการประมวลข้อมูลของเว็บไซต์และส่งข้อมูลที่ออกมาเป็นตัวเว็บไซต์แสดงให้เราเห็นในเว็บบราวเซอร์ - รักษาความปลอดภัย
ในเซิร์ฟเวอร์ของเว็บโอสติ้ง จะมีโปรแกรมรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์ที่จะเข้ามาโจมตี ยึดเว็บ หรือดึงข้อมูลต่างจากเว็บไซต์เรา - สำรองข้อมูล
เว็บโฮสติ้งจะมีระบบสำรองข้อมูลอยู่ แต่ละแห่งอาจไม่เหมือนกัน เช่น อาจจะมีการสำรองข้อมูลอัตโนมัติรายวัน หรือรายสัปดาห์ หรือบางแห่งเราต้องเป็นคนทำการสำรองข้อมูลเอง ขึ้นอยู่กับการบริการของโฮสติ้งแต่ละเจ้า - ระบบบริการอื่นๆ
บริการอื่นๆ ของเว็บโฮสติ้ง ที่มีให้เราใช้ เช่น ระบบอีเมลล์โดยใช้ชื่อเว็บของเราเอง การติดตั้งเว็บสำเร็จรูป โปรแกรมเสริมต่างๆ ระบบตรวจวัดผู้ชม ตรงนี้ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการและแพ็กเกจโฮสติ้งที่เราเลือก
2. ประเภทของเว็บโฮสติ้ง
เว็บโฮสติ้งแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ ดังนี้
- Shared Hosting
เป็นการนำเครื่องเซิร์ฟเวอร์ 1 เครื่องมาแบ่งทรัพยากรและแชร์ให้ใช้กับหลายๆ เว็บไซต์ บนเซิร์ฟเวอร์เครื่องเดียว ข้อดีคือราคาถูก ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับเว็บไซต์ใหม่ที่มีผู้ใช้งานไม่มาก แต่ไม่สามารถปรับแก้อะไรได้มากนัก - VPS Hosting
ย่อมาจาก Virtual Private Server เป็นการนำเซิร์ฟเวอร์จริงมาสร้างเซิร์ฟเวอร์จำลองหลายเครื่อง และแชร์ทรัพยากรให้ในแต่ละเซิร์ฟเวอร์จำลอง เสมือนคุณได้ดูแลจัดการเครื่องเซิรฟเวอร์เครื่องหนึ่ง ซึ่งคุณจะบริหารจัดการเว็บไซต์หรือฐานข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 1 ได้ตามแพลนของผู้ให้บริการ และอยู่ในขอบเขตของทรัพยากรที่ได้รับ เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีผู้ใช้งานปานกลาง ต้องการความเสถียรมากขึ้น และพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มขึ้น - Dedicated Hosting
คือการเช่าเซิร์ฟเวอร์ทั้งเครื่องมาใช้งาน เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีผู้ใช้งานมาก ใช้ทรัพยากรเครื่องได้เต็มที่ ความเสถียรสูง ความปลอดภัยสูงเพราะไม่ต้องแชร์ทรัพยากรกับใคร และปรับแต่งเซิร์ฟเวอร์ได้ตามต้องการ ข้อเสียคือราคาแพง และผู้ใช้จำเป็นต้องมีความรู้เครื่องการจัดการเครื่องเซิร์ฟเวอร์ - Cloud Hosting
เป็นเว็บโฮสติ้งที่สร้างบนระบบคลาวด์ ข้อดีคือมีความยืดหยุ่นสูง ปรับขนาดทรัพยากรเซิร์ฟเวอร์ได้ง่าย มีความเสถียร์และระบบความปลอดภัยสูงมาก เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีผู้ใช้งานไม่แน่นอน แต่ราคาจะขึ้นอยู่กับการใช้งานจริง
3. การเลือกเว็บโฮสติ้ง
ในเนื้อหาด้านบนเราจะรู้ถึงประเภทเว็บไฮสติ้งไปแล้ว ซึ่งทำให้พอประเมินได้คร่าวๆ ว่าเราควรใช้เว็บโฮสติ้งประเภทไหนกับเว็บไซต์เรา และในแต่ละประเภท ผู้ให้บริการก็จะมีการแบ่งแพลนต่างๆ ให้เลือก โดยแบ่งโดยทรัพยากรและฟีเจอร์ที่ได้รับ รวมถึงราคาออกไปอีกเพื่อให้พอดีกับความต้องการ เราควรพิจารณาอะไรบ้างเพื่อเปรียบเทียบ
ทรัพยากรของเว็บโฮสติ้ง
ข้อมูลส่วนนี้ควรพิจารณาหลายที่เพื่อนำมาเปรียบเทียบกัน
- พื้นที่เก็บข้อมูล
- ปริมาณการรับส่งข้อมูล
- จำนวนโดเมน
- จำนวนฐานข้อมูล
- จำนวนอีเมลล์
ฟีเจอร์ที่ได้รับ
ข้อมูลส่วนนี้บางผู้ให้บริการอาจจะได้แสดงให้ดูเพราะบางเว็บไซต์ก็อาจไม่ได้ใช้ฟีเจอร์บางตัวต้องสอบถามผู้ให้บริการแต่ละเจ้า
- การติดตั้ง CMS wordpress
- SSL ฟรี
- ระบบ Auto Backup
- ระบบป้องกันการโจมตี DDoS
นอกจากนี้ยังมีเรื่อง Downtime, ความเร็วของเว็บโฮสติ้ง, การ Support ฯ อาจจะต้องหาข้อมูลหรือรีวิวผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่เราสนใจ เพื่อประกอบการตัดสินใจด้วย
4. WordPress Hosting
เป็นเว็บโฮสติ้งที่สร้างมาเพื่อใช้กับ WordPress โดยเฉพาะ เป็นโฮสติ้งที่จัดสรรทรัพยากรและทำการปรับค่ามาให้เป็นพิเศษสำหรับ WordPress รวมถึงฟีเจอร์ที่ติดตั้งมาเพื่อำนวยความสะดวก รวมถึงความเร็วที่มากกว่า Share Hosting อย่างเห็นได้ชัด
ข้อดีของ WordPress Hosting
- ติดตั้งง่าย
WordPress Hosting จะมีเครื่องมือสำหรับติดตั้ง WordPress อยู่แล้ว ผู้ใช้สามารถติดตั้ง WordPress ได้โดยไม่ต้องตั้งค่าอะไรเลย ทำให้ประหยัดเวลา - ใช้งานสะดวก
WordPress Hosting จะมีเครื่องมือและฟีเจอร์สำหรับ WordPress โดยเฉพาะ ช่วยให้จัดการเว็บไซต์ WordPress ได้ง่ายขึ้น - ความเร็วและเสถียร์
WordPress Hosting มีการปรับค่าให้ทำงานกับ WordPress โดยเฉพาะอยู่แล้ว รวมถึงทรัพยากรที่มีจะมากกว่า Share Hosting ทำให้เว็บบน WordPress Hosting เร็วกว่าและรองรับผู้ใช้งานมากกว่า - ความปลอดภัย
WordPress Hosting ส่วนใหญ่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ออกแบบมาสำหรับ WordPress โดยเฉพาะอยู่แล้ว
รวมถึงระบบ Auto Update ช่วยให้เว็บไซต์ WordPress เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ ช่วยป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้ดี
Pingback: การสร้างเว็บไซต์มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง Goodwebeasy รับสร้างเว็บไซต์